สวัสดีครับผมจะมาแนะนำเมืองน่าเที่ยวเมืองนึงครับ เมืองนี้ถูกขนานนามว่า "เมืองสามอ่าว" ใช่แล้วครับ เมืองประจวบคีรีขันธ์ นี่เอง
ช่วงที่ผมไปเที่ยวเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ครับ แต่ที่เมืองนี้กลับเงียบสงบ ไม่มีคนพลุพล่านวุ่นวายเหมือนเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ (ถูกใจคนรักสงบเลยที่เดียว) เมืองประจวบคีรีขันธ์นั้นเป็นเมืองไม่ใหญ่มากครับ เป็นเมืองติดทะเลที่มีเสน่ห์และเงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนสุด ๆ ที่สำคัญของกินอร่อย ๆ เพียบเลยนะครับจะบอกให้
แนะนำเมืองมาซะก็ตั้งนาน แล้วผมมาเที่ยวอะไรทีนี่กันล่ะ สถานที่ที่ผมไปเที่ยวนั้นจะเปิดให้เที่ยวได้เฉพาะวันหยุดยาวเท่านั้นครับ ไม่ได้เปิดเที่ยวตลอด ที่นั่นคือ "เขาล้อมหมวก" ครับ การจะไปเที่ยวที่นี่ต้องเตรียมร่างกายหน่อยนิดนึงเพราะมันเป็นการเดินขึ้นเขา แล้วก็ปีนขึ้นเขาที่มีความสูง 902 เมตร เพื่อไปชมวิวสุดยอดอลังการของเมืองสามอ่าว เราจะได้เห็นความสวยงามอลังการของอ่าวทั้งสามว่ามันจะงามเพียงใด พร้อมกันแล้วก็ตามมากันเลยครับ
เริ่มต้นจากการเตรียมตัวก่อนเลยครับ
- รองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้ารัดส้นครับ เพราะว่าทางที่จะขึ้นไปเราต้องปีนป่าย ค่อนข้างชันครับ
- ถุงมือ ถ้ามีจะดีมากครับ ดียังไงเดี๋ยวจะบอกครับ
- น้ำดื่มสักขวด หรือเท่าที่เอาไปไหวครับ
- หมวก และอุปกรณ์กันแดดอื่น ๆ
เตรียมตัวพร้อมแล้วก็ลุยโล้ด !!!
- รองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้ารัดส้นครับ เพราะว่าทางที่จะขึ้นไปเราต้องปีนป่าย ค่อนข้างชันครับ
- ถุงมือ ถ้ามีจะดีมากครับ ดียังไงเดี๋ยวจะบอกครับ
- น้ำดื่มสักขวด หรือเท่าที่เอาไปไหวครับ
- หมวก และอุปกรณ์กันแดดอื่น ๆ
เตรียมตัวพร้อมแล้วก็ลุยโล้ด !!!
เขาล้อมหมวกนี้อยู่ภายในกองบิน 5 ครับอยู่ในตัวเมืองประจวบฯ นี้เลย ส่วนเบอร์โทรติดต่อ และวันที่เปิดให้ขึ้นก็ตามรายละเอียดเลยครับ
อ้อ กำหนดเวลาขึ้นได้ตั้งแต่ 06.00 - 12.00 น. นะครับ แล้วต้องมาลงทะเบียนขอขึ้นเขาก่อน 10.30 น. ครับ
*** แนะนำว่าควรมาตอนเช้า ๆ ครับ เพราะอากาศจะได้ไม่ร้อนมาก และทางค่อนข้างแคบ ถ้าเราขึ้นกลุ่มแรก ๆ ก็จะยังไม่มีคนเดินสวนมาทำให้ไม่ต้องเสียเวลาหยุดรอครับ
อ้อ กำหนดเวลาขึ้นได้ตั้งแต่ 06.00 - 12.00 น. นะครับ แล้วต้องมาลงทะเบียนขอขึ้นเขาก่อน 10.30 น. ครับ
*** แนะนำว่าควรมาตอนเช้า ๆ ครับ เพราะอากาศจะได้ไม่ร้อนมาก และทางค่อนข้างแคบ ถ้าเราขึ้นกลุ่มแรก ๆ ก็จะยังไม่มีคนเดินสวนมาทำให้ไม่ต้องเสียเวลาหยุดรอครับ
มาถึงลงทะเบียนกันแล้วก็เดินมาแวะสักการะ ศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวก กันก่อนก็ดีครับเพื่อความเป็นศิริมงคล จะได้เดินขึ้นเขา ปีนเขาได้รอดปลอดภัย (พูดยังกะจะไปออกรบเลย ฮ่า ๆ)
พร้อมแล้วก็ลุยกันเลย ทางเดินช่วงแรกจะเป็นบันไดครับ เดินสบาย ๆ เรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก ทางเดินที่เป็นบันได จะเป็นระยะทางแค่ 1 ใน 4 ของระยะทางทั้งหมดครับ ต่อจากนี้คือของจริงแล้วล่ะ อู้วววว จะโหดแค่ไหนเราก็จะไปต่อ ไปดูให้รู้ว่าข้างบนมันงามเพียงใด
ทางเดินหลังจากหมดช่วงบันไดจะเป็นหินครับบางช่วงก็เดินได้สบาย ๆ บางช่วงก็จะชันมากกกกกกก ท่านต้องใช้เกียร์ 4WD (คลาน 4 ขานั้นแหล่ะ) ขึ้นครับ แต่ไม่ต้องห่วงครับจะมีเชือกขึงไว้ให้จับประคองตัวปีนขึ้น (ถุงมือจำเป็นก็เพราะอย่างงี้แหล่ะ ไม่มีถุงมือจะทำให้แสบมือได้ครับ) ที่สำคัญมีทหารมาคอยอำนวยความสะดวก และช่วยเหลือในจุดที่เดิน หรือปีนยาก ๆ เป็นระยะ ๆ ครับ ดูแลกันเป็นอย่างดีเลยทีเดียว
ใช้เวลาเดิน ๆ ปีน ๆ ไม่ช้าไม่นานก็ มาถึงจนได้ครับ ยอดเขาล้อมหมวกถึงแดดจะร้อน แต่ก็มีลมแรง ๆ ปะทะกับตัวเรา บวกกับเห็นวิว แบบ 360 องศา ที่แสนจะงาม ก็ทำให้ลืมความร้อนแรงของแสงแดดไปเลย ไม่รอช้าเดินหามุมถ่ายรูปเท่ ๆ กันดีกว่า
ถ่ายรูปกันไปเรื่อย ๆ ถ่ายกันได้หลาย ๆ มุมเลยครับ เพราะว่าบนนี้จะเห็นวิวทุกทิศทาง เห็นอ่าวทั้ง 3 ของเมืองประจวบฯ เลยทีเดียว
ด้านบนมีศาลาเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป และรอยพระพุทธบาท ให้ได้สักการะ และพอจะเป็นที่หลบแดดร้อน ๆ ได้บ้าง
เมื่อถ่ายรูป กินลม ชมวิว กันจนหายเหนื่อยแล้ว ก็เตรียมตัวเดินลงกันครับ ตอนเดินลงก็ใช่ว่าจะง่าย ๆ ซะทีเดียวต้องใช้ความระมัดระวังอยู่พอสมควรเลย แต่ก็มีทหารที่น่ารักคอยให้ความช่วยเหลือเป็นระยะ ๆ
ลงมาถึงด้านล่างก็มีน้ำเย็น ๆ จำหน่ายให้ได้ซัดกันให้หายเหนื่อย (จังหวะนี้ผมว่าน้ำอัดลมเย็น ๆ เป็นอะไรที่ทำให้สดชื่นที่สุดแล้วครับ)
พักผ่อน และสดชื่นจากน้ำเย็น ๆ แล้วด้านล่างก็จะมีน้อง "ค่างแว่น" ให้เราให้อาหารได้ครับ โดยจะมีซุ้มขายอาหารสำหรับให้ค่างแว่นกินด้วย ก็ถ่ายรูปกันต่อเพลิน ๆ ได้ครับ
ก็จบลงไปกันครับสำหรับทริปท่งเที่ยวของเที่ยวสนุก ๆ ของผม ได้ครบทุกรสชาติ และสัมผัสหลาย ๆ สิ่งในทริปเดียว ไม่ว่าจะเป็น ทะเล ภูเขา แสงแดดแผดเผา และสัตว์ป่าน่ารัก ถึงจะเหนื่อยบ้าง แต่ก็ได้เห็นความงดงามของธรรมชาติ และได้เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ กับสถานที่ใหม่ ๆ อยากให้เพื่อน ๆ ได้ลองไปเที่ยวดูบ้างครับ ผมไปมาแล้ว แล้วเพื่อน ๆ จะไปป่ะล่ะ ?
