Tuesday, September 27, 2016

ไป...ทีลอซู...ป่ะล่ะ ?



ถ้าจะพูดถึงที่สุดของที่สุดของน้ำตกในเมืองไทยแล้ว แน่นอนครับน้ำตกที่ใหญ่ที่ยิ่งใหญ่อลังการที่สุดในประเทศไทยก็คือน้ำตก "ทีลอซู" นั้นเอง น้ำตกทีลอซู อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ผ่าอุ้มผาง เป็นน้ำตกที่มีความกว้างถึง 500 เมตร มีความสูง 300 เมตร มีน้ำไหลตลอดทั้งปี แต่ในหน้าฝนที่เราไปเที่ยวมา ปริมาณน้ำจะเยอะมาก ทำให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ได้ชัดเจนเสียงน้ำตกดังอื้ออึง พร้อมกับระอองน้ำที่ฟุ้งกระจายเต็มพื้นที่ ทำให้บรรยากาศชุ่มฉ่ำเย็นสบายครับ

__________
การเดินทาง
__________

เรานั่งรถโดยสารจาก กทม. - อ.แม่สอด จ.ตาก
จากนั้นก็นั่งรถสองแถว (เหมา) จาก อ.แม่สอด ผ่าน 1,219 โค้ง ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง สู่ อุ้มผาง
ถึงอุ้มผางแล้ว การเดินทางต้องนั่งเรือยางตามลำน้ำกลองไปอีก 3 ชั่วโมง
ต่อด้วยเดินเท้าระยะทาง 9 กิโลเมตร (ฤดูฝนไม่อนุญาตให้รถยนต์วิ่ง)



____________
การเตรียมตัว
____________

ชุดพร้อมลุย พร้อมเปียกและพร้อมเลอะโคลน
อุปกรณ์กันแดดเต็มรูปแบบ มีอะไรกันแดดได้โบกเข้าไป เพราะต้องนั่งเรือยาง 3 ชั่วโมง
ไฟฉาย สำหรับส่องสว่าง (จุดกางเตนท์จะมีไฟฟ้าถึงแค่ 3 ทุ่ม)
เตนท์ + ฟลายชีท ที่กันฝนได้
อุปกรณ์ดำรงชีพ เครื่องครัว อาหาร (จริง ๆ จุดกางเตนท์มีน้ำดื่มขาย มีครัวขายอาหารครับ ถ้าเหมาก็ 3 มื้อ 250 บาทครับ)
สเปรย์กันแมลง ยุงเยอะครับ

________________________
พร้อมกันยัง พร้อมแล้วลุย !!!
________________________

เริ่มต้นเมื่อรถที่ขนเรือยางมาถึงจุดปล่อยเรือแล้ว ก็จัดแจงเตรียมของกินของใช้ต่าง ๆ ขึ้นบนเรือได้เลยครับ เราจะได้ คนพายเรือ 2 คนครับ หัวคน ท้ายคน ส่วนพวกเรามีหน้าที่ชื่นชมธรรมชาติ แล้วก็เอาเท้าราน้ำครับ ฮ่า ๆ ๆ
ถ้าเจอวันที่แดดร้อนก็จะลำบากหน่อย ถ้าวันที่ฟ้าครึ้ม ๆ ก็จะดีมาก ถ้าเจอวันที่ฝนตกก็จะเละเทะกันไป เพราะฉะนั้นเซฟ ๆ เลยคือ ของใช้เสื้อผ้าควรแพ็คให้กันน้ำไว้ก่อนครับ ส่วนวันที่เราไปนั้น ครึ้ม ๆ กำลังดีสลับกับแดดออกครับ





ล่องเรือมาได้ไม่นาน ก็จะเห็นความงดงามของธรรมชาติสองฝั่งของลำน้ำครับ ทั้งผาสูงชัน และน้ำตกทีลอจ่อ น้ำตกสายรุ้ง (ถ้ามาถูกจังหวะก็จะเห็นเป็นสายรุ้งครับ) ระหว่างทางจะมีบางช่วงที่เป็นลักษณธแก่ง แต่ก็เป็นแก่งเล็ก ๆ ให้เราได้ตื่นเต้นดีครับ





ระหว่างทางจะมีบ่อน้ำร้อนครับ เราก็แวะนั่งแช่ เป็นบ่น้ำธรรมชาติเลยครับ มีที่นั่งให้ได้นั่งแช่กันแบบชิล ๆ เลยทีเดียว จุดนี้จะมีห้องน้ำให้เข้าด้วยเผื่อใครอยากทำธุระส่วนตัวก็ทำที่จุดนี้ได้เลยครับ จากนั้นเราก็เดินมาลงเรือกันต่อเลยเพราะ ระยะทางยังอีกไกล



แนะนำว่าระหว่างล่องเรือนอกจากชมธรรมชาติทั้งสองฝั่งแล้ว ควรหากิจกรรมอะไรทำเพราะใช้เวลานานใช้ได้เลยครับ ส่วนกิจกรรมของกลุ่มเราก็คือ สลับกันงีบครับ ฮ่า ๆ ๆ เพราะเดินทางเหนื่อยมาก ขึ้นรถจาก กทม. 4 ทุ่มกว่าจะได้เริ่มล่องเรือก็ปาไป บ่าย 2 แล้ว (จริง ๆ แล้วพวกเราเลทเสียเวลาครับ)




ระยะเวลาผ่านไปทั้งหมด 3 ชั่วโมงนิด ๆ เราก็มาถึงจุดเริ่มเดินเท้าครับ (ท่าทราย) ก็ขนสัมภาระลงจากเรือ เตรียมตัวเดินกันต่อ 9 กิโลเมตร เรือของเราก็จะมีคนพายเรือ 1 คนเดินไปกับเราครับ ส่วนอีกคนก็พายเรือต่อกลับ (บางกลุ่มเขาก็ผูกเรือไว้ที่ท่าน้ำแล้วก็พักแรมแถว ๆ นั้นเลย เพื่อรอรับลูกทัวร์กลับ) ทางเดินเท้าจะเป็นทางที่ค่อนข้าชันใช้ได้เลย สลับขึ้นลง และทางราบเล็กน้อย ทางจะเป็นถนนพัง ๆ บ้าง ดินโคลนบ้าง เดินนาน ๆ แล้วก็รู้สึกปวดเท้าอยู่เหมือนกัน เพราะเราแบกสัมภาระกันเข้าไปเอง ตั้งใจจะทำอาหารกินกันเองด้วย ก็เลยจัดกันมาเต็ม ๆ เดินไปได้สักพักฟ้าก็เริ่มมืดครับ (จริง ๆ ถ้าเราไม่เลท ควรจะไปถึงจุดกางเตนท์ ช่วงเย็น ๆ) ใช้เวลาเดิน  2 - 3 ชั่วโมงครับ เดินไปพักไป ก็มาถึงจุดกางเตนท์ เราก็กางเตนท์ พร้อมทำอาหารเย็นกินกัน จากนั้นก็อาบน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน (มีห้องน้ำ) แล้วก็เข้านอน






เช้าแล้วได้เวลาลุยน้ำตกทีลอซูกันแล้ว เราตื่นขึ้นมาตอนเช้าทำธุระส่วนตัวเรียบร้อย กินอาหารเช้าเสร็จ ก็เริ่มเดินเข้าน้ำตกเลยครับ ทางเดินเข้าน้ำตกจะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติครับ ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร ทางดีครับเป็นคอนกรีตทั้งหมด เสียค่าธรรมเนียมในการเข้า 20 บาทก็เริ่มเดินกันเลย ระหว่างเดินร่มรื่นครับเพราะช่วงฤดูฝนป่าจะเขียวมาก เดินเพลิน ๆ แปปเดียวก็ถึงแล้วครับน้ำตกทีลอซู น้ำตกยิ่งใหญ่มากจริง ๆ ครับเสียงน้ำตกดังสนั่น พร้อมกับละอองน้ำฟุ้งกระจายเต็มพื้นที่ครับ ยืนชื่นชมอยู่สักพักก็เดินขึ้นด้านบนต่ออีกนิดหน่อย จุดนั้นจะมีจุดให้เล่นน้ำครับ สามารถเล่นน้ำได้ น้ำเย็นชื่นใจมากเลยครับ












เวลาประมาณ 10 โมง เราก็เริ่้มเดินกลับครับ เพราะต้องไปจัดการเก็บของสัมภาระ กินอาหารกลางวัน แล้วก็เดินออกไปนั่งเรือยางต่อเพื่อกลับเข้าอุ้มผางครับ ออกจากจุดกางเตนท์ประมาณเที่ยง เดินเท้า 2 ชั่วโมงกว่า ๆ ต่อด้วยนั่งเรือยางอีก 2 ชั่วโมง รถก็จะมารอรับครับ เราก็จะถึงอุ้มผาง 5 - 6 โมงเย็นพอดี ก็เดินเล่นในอุ้มผาง หาอะไรกินมื้อเย็นพอดีเลยครับ






ก็จบกันไปอีก 1 ทริปน้ำตกที่ประทับใจครับ ทั้งบรรยากาศระหว่างล่องเรือยาง ธรรมชาติสองฝั่งลำน้ำนั้นสวยงามมากจริง ๆ ครับ มีแก่งให้ได้ตื่นเต้นเล็กน้อย น้ำตกทีลอซูก็ยิ่งใหญ่สมกับที่ตั้งใจเข้าไปชื่นชมเลยครับ อยากให้เพื่อน ๆ ได้เข้าไปเห็นด้วยตาตัวเอง ถ้าใครคิดว่าเดินไม่ไหว ก็รอถึงช่วงที่อนุญาตให้รถยนต์วิ่งได้ก็ได้ครับ แต่ก็จะแลกกับช่วงนั้นน้ำจะน้อยหน่อย

#ไปป่ะล่ะ #น้ำตกทีลอซู #อุ้มผาง

Monday, September 26, 2016

ไป...เปรโต๊ะลอซู...ป่ะล่ะ ?



     ถ้าพูดกันถึงเสน่ห์ของการท่องเที่ยวในหน้าฝนแล้วล่ะก็ การเดินป่าหน้าฝนก็เป็นการเที่ยวที่สนุกมาก แล้วยังจะได้เจอกับธรรมชาติที่สวยงามผืนป่าอันเขียวชอุ่มมองดูแล้วได้ความรู้สึกสดชื่นสุด ๆ ที่สำคัญเมื่อมีฝนก็ต้องมีน้ำ เมื่อมีน้ำก็จะทำให้น้ำตกมันสวยงาม (แต่ก็ทำให้ทางเดินมันเละเทะ ฮ่า ๆ ๆ)
ทริปนี้เราเลยเข้าป่าในหน้าฝนไปตามหาน้ำตกรูปหัวใจแห่งป่าอุ้มผาง น้ำตกที่ได้ชื่อว่าสวยงามและมีความสูงที่สุดในประเทศไทย "น้ำตกเปรโต๊ะลอซู" นั้นเองทริปของเราเป็นยังไงกันบ้าง ติดตามกันได้เลยครับ

------------------
การเดินทาง
------------------
เรานั่งรถโดยสารจาก กทม. - อ.แม่สอด จ.ตาก
จากนั้นก็นั่งรถสองแถว (เหมา) จาก อ.แม่สอด ผ่าน 1,219 โค้ง ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง สู่ อุ้มผาง
การเดินทายังไม่สิ้นสุดต้องนั่งรถอีก 2 ชั่วโมงกว่า จาก อุ้มผางไปยังจุดเริ่มเดินเท้า หมู่บ้านกุยเลอตอ (โค้งเยอะมากกกก)

------------------
การเตรียมตัว
------------------
ชุดพร้อมลุย พร้อมเปียกและพร้อมเลอะโคลน (ก็เที่ยวหน้าฝนอ่ะเนอะ)
รองเท้าที่เดินแล้วไม่ลื่น ถ้าแบบที่ลุยน้ำเปียกแล้วไม่เน่าจะดีมาก
ถุงพลาสติก กระเป๋ากันน้ำ สำหรับใส่ของที่ไม่อยากให้เปียกฝน
ไฟฉาย อันนี้สำคัญมากเพราะในป่าจะมืดมาก
เตนท์ + ฟลายชีท ที่กันฝนได้ จะได้นอนแบบไม่ต้องกังวลเปียก
อุปกรณ์ดำรงชีพ เครื่องครัว อาหาร
สเปรย์กันแมลง (แมลงและยุงเยอะมาก) แต่ทากไม่มีครับไม่ต้องกลัว
น้ำ สามารถใช้จากลำธารได้
อื่น ๆ อะไรอีกนึกไม่ออกแล้วแฮะ

แอดมินแนะนำว่า เอาของไปน้อยที่สุดครับ เน้นพวกของสำคัญ ๆ

-----------------------
พร้อมกันแล้วลุย
-----------------------

เราต้องมี เจ้าหน้าที่นำทาง ด้วยนะครับไม่งั้นอาจหลงได้ แอดมินติดต่อ เจ้าหน้าที่นำทาง ลูกหาบ และรถมาส่งยังจุดเริ่มเดินผ่านทางรีสอร์ทที่อุ้มผางเลยครับ



เริ่มเดินเราก็เละกันเลยครับ เพราะทางเดินเราจะเป็นลำธารเล็ก ๆ และทางเดินที่เป็นดินโคลนที่เปียกน้ำ เรียกว่าไม่ต้องหล่อเฟี้ยวกันเลย ลุยไปเถอะยังไงก็เละจะช้าจะเร็ว


เดินมาเรื่อย ๆ จะเริ่มเดินผ่านตามพื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้านแถวนั้นครับ ทางเดินสบาย ๆ ไม่ชันมากเท่าไหร่ ถ้าฟ้าไม่ครึ้มก็โดนแดดร้อนครับ เตรียมตัวกันแดดกันไว้ด้วยก็จะดี แอดมินก็พักกินข้าวเที่ยงที่ห่อใส่กล่องมาด้วยเลยครับ



เมื่อสิ้นสุดพื้นที่เกษตรของชาวบ้านแล้วก็จะเข้าสู่เขตของป่า เป็นป่าค่อนข้างทึบ ทางแคบอีกทั้งยังมีเดินข้ามลำธารด้วยครับจุดที่ลึกๆ ก็ประมาณ 50-60 cm ในภาวะปกตินะครับ ถ้าฝนตกหนักก็ลึกกว่านี้และน้ำก็จะไหลแรงกว่านี้

ทางเริ่มมีความชันขึ้นบ้าง เดินไปเรื่อย ๆ ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ๆ ก็จะเจอกับ จุดตั้งแคมป์แรก จุดนี้อยู่ใกล้ลำธารมาก ลงเล่นน้ำกันได้เลยทีเดียว พวกผมก็เลือกเอา แคมป์นี้เลยครับจะได้ไม่ต้องแบกของหนัก ๆ ขึ้นไปอีกแคมป์เพราะแคมป์สอง นั้นทางจะชันขึ้นไปอีกค่อนข้างมาก ต้องเดินแบกของหนักไปอีก 1-2 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย (แต่แคมป์สอง จะได้เปรียบเพราะอยู่ใกล้กับ ดอยมะม่วงสามหมื่นและก็น้ำตกรูปหัวใจ)






ดอยมะม่วงสามหมื่น เป็นยอดเขาที่สามารถมองเห็นน้ำตกรูปหัวใจได้จากมุมสูง และมีสายหมอกปกคลุมแทบจะตลอดเวลา ขนาดในตอนเที่ยงวัน ยังมองทางแทบไม่เห็นในบางจังหวะการเดินทางจากแคมป์แรกต้องเดินไต่ความชันของเส้นทางขึ้นมายังแคมป์สอง แล้วก็เดินต่อด้วยทางที่ชั่นโคตร ชันจนต้องร้องขอชีวิต ฮ่า ๆ ๆ จากนั้นก็เดินตามสันเขาไปเรื่อย ๆ เลยครับ ใช้เวลาเดินนานพอสมควรกว่าจะไปถึงยอดดอยมะม่วงสามหมื่น แอดมินเดินประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง จนน้ำดื่มที่เตรียมมาหมด อีกทั้งกลัวว่าจะไปน้ำตกรูปหัวใจไม่ทัน ก็เลยเดินลง




















น้ำตกเปรโต๊ะลอซู น้ำตกรูปหัวใจ ไฮไลท์สำคัญของทริปนี้ การเดินทางจากยอดดอยมะม่วงสามหมื่น ก็เดินกลับลงมาทางเดิมเลยครับ จนมาถึงแคมป์สอง จะมีทางแยกลงมายังน้ำตก (ก่อนจะเข้าถึงน้ำตกจะมีแคมป์ย่อย ๆ อีกแคมป์นึง) ทางเดินไม่เหนื่อยเท่าไหร่ครับ เพราะเป็นทางลงตลอดจากยอดดอยมะม่วงสามหมื่นพื้นที่สำหรับชมและถ่ายรูปน้่ำตกรูปหัวใจมีอยู่ไม่มากครับ ก็ชื่นชมและเก็บภาพสักพักก็เดินกลับแคมป์ก่อนจะค่ำ ระหว่างทางก็เดินลัดเลาะตามลำธารมาเรื่อย ๆ เป็นทางเดินลงเป็นส่วนใหญ่ครับ สำหรับไม่เหนื่อย มาก






กลับถึงแคมป์ก็งัดเอาอุปกรณ์ที่เตรียมมาก จัดแจงปรุงอาหารเย็น กินให้เต็มที่เพราะเราเหนื่อยมาทั้งวันครับ จากนั้นก็พักผ่อนตามสบาย...