อีกครั้งกับยอดเขารูปหัวใจ กับช่วงหนาวปลายปี ที่จะได้พบกับใบเมเปิ้ลสีแดงสวยงาม ใช่แล้วครับ ที่นี่ ภูกระดึง อุทยานแห่งชาติ ภูกระดึงนั้นเอง
5.5 กิโลเมตรที่ต้องผ่านซำต่าง ๆ ขึ้นมาจากตีนภูถึงหลังแป เป็นด่านทดสอบก่อนที่จะได้พบกับความสวยงามของยอดเขาแห่งนี้ครับ
หลังจากขึ้นมาแล้วเราก็จะเดินเที่ยวกันได้ตั้งกะเช้ายันค่ำเลยครับ ที่เที่ยวมีทั้งน้ำตก และหน้าผา อีกทั้งยังมีอาหารอร่อย ๆ รวมถึงหมูกะทะ ของโปรดของเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนให้ได้เลือกกินกันด้านบนนี้ด้วยครับ เราไปเริ่มกันเลยดีกว่าว่าเราไปเที่ยวกันที่ไหนบ้าง
- เริ่มกันในตอนเช้าสำหรับคนที่ยังเหนื่อยล้าจากการเดินขึ้นยอดเขา ก็เน้นเดินใกล้ ๆ เบา ๆ เพียง 500-600 เมตร จากลานกางเต็นท์เท่านั้น ก็จะมาที่อ่างเก็บน้ำวังกวางครับ ดูพระอาทิตย์ขึ้นได้สวยงามไม่แพ้ที่ไหนเลย
- หลังจากที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นแล้วก็จัดการหาข้าวเช้าทานให้เรียบร้อย แล้วเราก็จะเดินไปพบกับไฮไลท์ของเราในทริปนี้กันเลยกับใบเมเปิ้ลแดง ๆ กันที่ น้ำตกถ้ำใหญ่ครับ ใช้เวลาให้เต็มที่กับการเก็บภาพที่จุดนี้กันให้อิ่ม ๆ เลยครับ
- หลังจากจุใจกับใบเมเปิ้ลกันแล้ว ก็เดินทางกันต่อครับ ระหว่างทางก็มีจุดให้แวะถ่ายรูปสวย ๆ กันได้ อย่างเช่นจุดทุ่งหญ้ากว้าง ๆ สุดลูกหูลูกตา
- เดินมาได้ถึงเวลาประมาณเที่ยงวันเราก็มาแวะพักกันที่สระอโนดาตครับ สระน้ำขนาดใหญ่ที่มีร่มเงาของต้นสนให้ได้นั่งพัก บางคนที่เตรียมเสบียงมาก็จะแวะพักเติมพลังมื้อกลางวันกันที่นี่
- เราไม่ได้เรียมเสบียงมื้อเที่ยงมา ก็เลยต้องเดินกันต่อ ไปฝากท้องกันที่ร้านค้าที่ผาเหยียบเมฆครับ จากนั้นก็ไปถ่ายรูปกันที่ริมผา ที่ดูเหมือนสูงระดับเหยียบอยู่บนก้อนเมฆได้ยังไงยังงั้นเลย
- อิ่มแล้วถ่ายรูปเช็คอินสวย ๆ แล้วก็ต้องออกเดินกันต่อครับ ระหว่างทางก็แวะกับผาที่ไม่มีชื่อ แต่มีหินลักษณะคล้ายหัวเต่า ก็เรียกว่าหินหัวเต่าละกัน
- และแล้วเราก็มาถึงผาสุดท้าย ผาที่ใคร ๆ มาภูกระดึงก็ต้องมาที่ผานี้เพื่อถ่ายรูปกับก้อนหินที่ยื่นออกไปเหนือหน้าผากับต้นสนที่สวยงาม พร้อมกับชมพระอาทิตย์ตกกัน ณ ผาหล่มสัก นี้เอง
- ตัดมาที่เช้าอีกวัน รวบรวมกำลังกายและใจ ตื่นเช้าท่ามกลางความหนาวเย็นและความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินเมื่อวาน ตื่นตั้งแต่ 4.30 น. เพื่อออกเดินไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น
- หลังจากนั้นเดินถ่ายรูปขากลับมาเรื่อย ๆ ถึงลานกางเต็นท์แล้วก็ เก็บข้าวของ ทานมื้อเช้า เป็นอันจบทริป ภูกระดึงครับ