Tuesday, February 24, 2015

Pai-Pa-La เที่ยวเมืองเก่า กับงบเบา ๆ

     หลายคนบอกว่า อยากเที่ยวแต่เงินก็ไม่ค่อยมี เวลาก็ไม่ค่อยจะว่าง งั้นลองมาดูทริปนี้กันครับ เที่ยวกันแบบประหยัด ๆ ใกล้ ๆ กรุงเทพนี่แหล่ะ

     ทริปนี้เป็นทริปวันเดียวไปเช้า เย็นกลับกับการเที่ยวเมืองเก่า พระนครศรีอยุธยา ครับ
จากที่บอกไว้แล้วว่างบเบา ๆ เพราะงั้นก็ต้องเดินทางด้วยรถไฟครับ ต่อด้วยเช่ารถมอเตอร์ไซด์แว๊นซ์เที่ยวทั่วเกาะกันเลย
เริ่มต้นเดินทางที่หัวลำโพงด้วยรถไฟ จากที่ผมตั้งใจว่าจะขึ้นรถไฟรอบ 8.20 น. แต่ไปถึงหัวลำโพง 8.25 น. เจ้าหน้าที่บอกรถออกไปแล้ว รอบต่อไป (ขบวน 201 กรุงเทพ – พิษณุโลก) 9.25 น. เป็นรอบรถไฟฟรีด้วย ก็ตกลง แต่ !!! กว่าล้อจะหมุน 10.05 น.

     รถไฟวิ่งมาถึงชุมทางบางซื่อ เวลาประมาณ 10.30 น. รถจอดอีกประมาณ 20 นาที เพื่อรอขบวนด่วนไปก่อน (ขบวน 71 กรุงเทพ – ศรีสะเกษ ซึ่งออกจากหัวลำโพง 10.05 น. ตามกำหนด) มีเจ้าหน้าที่ขึ้นมาบอกว่า ใครจะไปอยุธยา เปลี่ยนไปขบวน 71 ได้นะ ลงไปซื้อตั๋ว 20 บาทเพราะจะไปถึงก่อน ผมก็เลยตัดสินใจ เปลี่ยนขบวนก็ได้ แค่นั่งบนรถไฟเฉย ๆ ใช้เวลาไป 1 ชั่วโมงกว่าแล้วยังไม่ถึงไหนเลย ความคลาสสิคสุด ๆ ของรถไฟไทย ><”

     รถไฟวิ่งมาจะถึงสถานีรังสิต มีเสียงลมฟรี้ดดดดดดดดดดดดดด ดังมาก สักพักหนึ่งขบวนรถก็จอด ทุกคนบนขบวนต่างงงกันว่าเกิดอะไรขึ้น มีเสียงตอบกลับมาว่ารถไฟยางแตก ฮ่า ๆ ๆ (จริง ๆ แล้วคืออุปกรณ์อะไรสักอย่างเกี่ยวกับการเปิด - ปิดประตู ทำให้ประตูตู้ที่ผมยืนมานั้นเปิดไม่ได้ ต้องเดินไปลงตู้อื่น)


     และแล้วก็มาถึงอยุธยาสักที เวลาที่มาถึงก็เที่ยงวันแล้ว (นั่งตั้งกะ 9.25 น. เวลาที่ควรจะถึงต้อง 11 โมงกว่า ๆ ช่างคลาสสิคจริง ๆ รถไฟไทย)



     มาถึงก็เดินหาร้านเช่ามอเตอร์ไซด์เลย อยู่ไม่ไกลเดินออกมาจากสถานีรถไฟ ข้ามถนนก็เจอแล้ว ราคาวันละ 150 บาท พร้อมน้ำมันเต็มถัง ตอนคืนรถก็ต้องไปเติมน้ำมันกลับมาให้เต็มถัง (คืนก่อน 18.00 น.) หรือใครชอบปั่นจักรยานก็เช่าจักรยานปั่นได้ หรือจะนั่งเรือข้ามฟากไปเช่าจักรยานอีกฝั่งนึงก็มีเหมือนกัน (ค่าเรือข้ามฟาก 5 บาท)

     ได้รถมอเตอร์ไซด์ปุ๊ป ก็ออกซิ่งเลยด้วยความหิวเลยมุ่งตรงไปที่วัดใหญ่ชัยมงคล เป็นวัดแรก เพราะถามจากร้านเช่ามอเตอร์ไซด์ว่าที่ไหนมีก๋วยเตี๋ยวเรือกิน เจ้าของร้านบอกหน้าวัดใหญ่มี อ้อ ตอนเช่ารถทางร้านจะให้แผนที่มาพร้อมกับอธิบายเส้นทางให้ด้วย








     จากนั้นก็ซิ่งข้ามฟากไปยังวัดโลกยสุธาราม วัดนี้จะมีพระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) องค์ใหญ่ที่สุดในอยุธยา




     ซิ่งต่อข้ามแม่น้ำมาอีกฝั่งหนึ่งมาที่วัดไชยวัฒนาราม (วัดนี้เสียค่าเข้าชม 10 บาท สำหรับคนไทย) วัดนี้ ยอดเจดีย์และยอดปรางค์สวยมาก บริเวณกว้างขวาง แต่แดดก็ร้อนมากเช่นกัน








     ขับกลับเข้ามาในเกาะ ไปยังวัดพระศรีสรรเพชญ์ (วัดนี้เสียค่าเข้าชม 10 บาท สำหรับคนไทย) วัดนี้จะมีเจดีย์ 3 องค์ที่สวยงามเป็นไฮไลท์




     บริเวณในเกาะนี้ จะมีวัดต่าง ๆ มากมายเลย ทำให้ผมขับหลงเหมือนกันเพราะมองไปทางไหนก็คล้าย ๆ กันไปหมด ไม่รู้วัดไหนเป็นวัดไหน ขับผ่านแล้วยังไม่รู้เลยว่าเป้นวัดที่จะไป ฮ่า ๆ ๆ แล้วยังมีช้างเดินอยู่ตามถนนค่อนข้างเยอะ ซึ่งเป็นช้างที่ให้นักท่องเที่ยวนั่งชมเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป้นชาวต่างชาติที่นั่งช้างชมเมือง

     วัดสุดท้ายที่ผมไปคือวัดมหาธาตุ (วัดนี้เสียค่าเข้าชม 10 บาท สำหรับคนไทย) วัดนี้มีไฮไลท์คือเศียรพระในรากต้นโพธิ์ วันที่ผมไปมีคณะทัวร์ไปค่อยข้างเยอะ ทั้งฝรั่ง ทั้งจีน และที่เยอะไม่แพ้กันคือญี่ปุ่น ผมถ่ายรูปอยู่แถวเศียรพระอยู่ได้ยินเสียคนญี่ปุ่นเข้ามาเห็นต่างร้องเป็นเสียงเดียวกันว่า ซุโก้ย !!!”






     
     ออกจากวัดก็ห้าโมงเย็นกว่า ๆ แล้วก็ไปแวะซื้อโรตีสายไหมสักหน่อยของขึ้นชื่อของที่นี่ ซึ่งแถวโรงพยาบาล จะมีร้านโรตีสายไหมเยอะมาก ก็เลือก ๆ ซื้อกันได้เลย จากนั้นก็ซิ่งไปเติมน้ำมันแล้วก็คืนรถ แล้วก็ไปรับตั๋วรถไฟกลับกรุงเทพรอบ 18.47 น. รอบนี้รถไฟฟรี
สรุปค่าใช้จ่าย
-           รถไฟ 40 บาท
-           อาหารกลางวัน 120 บาท
-           ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซด์ 150 บาท
-           ค่าน้ำมัน 28 บาท
-           ค่าเข้าวัด 60 บาท
-           ค่าน้ำ + ขนม 100 บาท (ช่วงรอรถไฟ เดินออกจากสถานีรถไฟ ข้ามถนนเดินไปทาง Lotus express แถวนั้นมีร้านขายก๋วยเตี๋ยว ขนม นม น้ำ เยอะพอสมควร)
รวมค่าใช้จ่าย 498 บาท หาร 2 คนก็ 249 บาท จบทริปสั้น ๆ งบเบา ๆ ครับ

     ขอบคุณที่ติดตามมาจนจบครับ
ติดตามพวกเราต่อได้ที่  https://www.facebook.com/PaiiPaLa
หรือ twitter : @PaiPaLaa

No comments:

Post a Comment